ปลูกผม เทคนิค DHI คืออะไร?
ผู้ที่กำลังศึกษาปลูกผมอยู่ คงเคยได้ยินคำว่า DHI มาก่อน บทความนี้หมอจะมาอธิบายเรื่องของ DHI ว่าคืออะไร ปลูกผม เทคนิค DHI ดีที่สุดจริงหรือ? ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการปลูกผมประกอบด้วยหลายขั้นตอน แบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้
2. ขั้นตอนนำรากผมออกมาจากบริเวณด้านหลัง
3. ขั้นตอนการเตรียมรากผม
4. ขั้นตอนการวางทิศทางและกำหนดความหนาแน่น
5. ขั้นตอนการปลูกผม
โดยดั้งเดิมการแบ่งวิธีปลูกผมจะแบ่งตาม ขั้นตอนการนำรากผมมาจากบริเวณด้านหลัง (ขั้นตอนที่2) ซึ่งแบ่งเป็น 2 วิธี คือ FUE และ FUT เท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงการบอกรายละเอียดเบื้องต้นว่าการปลูกผมนั้นมีการนำรากผมออกมาอย่างไร แต่ไม่ได้มีการอธิบายรายละเอียดเทคนิคอื่นๆ เช่น เทคนิคการนำกราฟมาปลูก อุปกรณ์การปลูก เป็นต้น ซึ่งขั้นตอนของการปลูกผมที่สำคัญอย่างมาก คือ ขั้นตอนการปลูกผม (Graft Placement) เป็นการนำกราฟที่เตรียมไว้มาปลูกยังบริเวณที่ต้องการ ซึ่งขั้นตอนการปลูกผมจะมีการใช้อุปกรณ์ในการนำกราฟหย่อนลงไปยังบริเวณที่หนังศีรษะ
อุปกรณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการปลูกมีมากมายหลายชนิดยกตัวอย่างเช่น
- Forcep อุปกรณ์คีบรากผมแบบดั้งเดิม
- Titanium Forcep อุปกรณ์คีบรากผมชนิดไทเทเนียม
- Dull Needle Implanter (DNI) ปากกาปลูกผมแบบไม่คม
- Sharp Needle Implanter ปากกาปลูกผมแบบคม หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ Direct hair implantation (DHI) นั่นเอง
- Multiple Needle Implanter ปากกาปลูกผมแบบคม สามารถปักกราฟได้มากกว่า 1 กราฟต่อการใช้งาน เช่น multi hair implanter
ปลูกผม เทคนิค DHI คืออะไร?
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า การปลูกผมเทคนิค DHI คือ การที่ใช้อุปกรณ์การปลูกแบบปากกามีคม (Sharp implanter) ในขั้นตอนการปลูกผมนั่นเอง ซึ่งแต่ละอุปกรณ์ล้วนมีข้อดีข้อเสียในตัวอุปกรณ์เอง
ข้อดีของการปลูกผมด้วย DHI : สามารถปลูกผมได้รวดเร็วขึ้น, ปลูกได้ง่ายขึ้น, สามารถปลูกผมพร้อมกำหนดทิศทางได้ภายในครั้งเดียว
ข้อเสียของการปลูกผมด้วย DHI : ตัวอุปกรณ์ปากกาจะมีช่องสำหรับบรรจุกราฟ ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าขนาดกราฟ ดังนั้นการปลูกผมจะเกิดแผลขนาดที่ใหญ่กว่าขนาดกราฟเสมอ และขนาดปลายปากกาที่ใหญ่จะทำให้เกิดแรงกดลงบนผิวหนัง เกิดการเด้งหลุดของกราฟที่อยู่บริเวณข้างเคียง (Graft popping) ทำให้ไม่สามารถปลูกชิดกันได้มากที่สุด ส่งผลให้ความหนาแน่นที่ทำได้จำกัด นอกจากนั้นกราฟที่เด้งออกมาทำให้ต้องปลูกใหม่ซ้ำ กราฟจึงมีโอกาสบอบช้ำได้มากกว่าการปลูกเพียงครั้งเดียว ยิ่งใช้ DHI ขนาดเล็ก แปลว่าช่องที่ใส่กราฟก็มีขนาดเล็กตามด้วย ดังนั้นขั้นตอนการนำกราฟเข้าไปในช่องแคบๆ จะทำให้กราฟมีโอกาสบอบช้ำ บาดเจ็บได้ ส่งผลให้อัตราการรอดต่ำลง
ปลูกผม FUE ต่างจาก DHI อย่างไร?
จริงๆแล้วทั้ง 2 ชื่อ เป็นกระบวนการในการปลูกผมคนละขั้นตอนกัน การปลูกผม FUE เป็นชื่อวิธีการนำรากผมออกมาทีละกอแบบไม่ผ่าตัด ส่วน DHI เป็นชื่ออุปกรณ์การปลูกผมแบบใช้ปากกามีคม(Sharp implanter) ซึ่งการปลูกผมที่ใช้อุปกรณ์ DHI ก็อาจจะมีการนำรากผมออกมาด้วยวิธี FUE หรือ FUT ก็ได้
ปลูกผม เทคนิค DHI ดีที่สุดจริงหรือ?
ยุคปัจจุบันมีการโฆษณาเทคนิคปลูกผม DHI ว่าเป็นเทคนิคที่ดีที่สุด ปลูกได้แน่นสุด แผลเล็กสุด ซึ่งความเป็นจริงแล้วเทคนิค DHI เป็นเพียงการใช้ปากกาปลูกผมแบบคมเข้ามาช่วยในขั้นตอนการปลูกผมเท่านั้น และมีข้อดีข้อเสียตามที่อธิบายไปข้างต้น ซึ่งการใช้อุปกรณ์ DHI ในการช่วยปลูกไม่ได้การันตรีว่า ผลลัพธ์การปลูกจะออกมาธรรมชาติ และแน่นกว่าการใช้อุปกรณ์ปลูกประเภทอื่น เพราะปัจจัยเรื่องความธรรมชาติและความแน่นนั้นขึ้นกับการออกแบบแนวผม การเรียงลำดับกราฟ การกำหนดความหนาแน่นที่เหมาะสม และการตกแต่งกราฟให้เล็กพอดี และการใช้เทคโนโลยีเครื่องเจาะที่ถนอมกราฟทำให้กราฟมีอัตราการรอดสูง ไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์การปลูกอย่างเดียวตามที่โฆษณากัน
ปลูกผมเทคนิคไหนดีสุด อุปกรณ์ใดดีสุด?
อุปกรณ์ปลูกผมมีจุดประสงค์หลักเพื่อนำกราฟไปฝังตัวบนหนังศีรษะอย่างปลอดภัย ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชนิดมีทั้งข้อดีข้อเสียในตัวมันเองการจะเลือกใช้อุปกรณ์ใดขึ้นกับความถนัดของแพทย์และทีม เพราะหากอุปกรณ์ทันสมัยแต่แพทย์ไม่ใช้ไม่ถนัด ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ดี ดังนั้นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าเทคนิคนี้ใช้อุปกรณ์ปลูกผมอะไร แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคืออุปกรณ์ที่ใช้ปลูกต้องไม่ทำให้กราฟบอบช้ำ เรียกว่า เทคนิคไม่สัมผัสรากผม ” Non touch graft technique ” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เกศาใช้ในขั้นตอนการปลูกผมมาโดยตลอด ซึ่งเทคนิคนี้เป็นการปลูกที่ทำให้กราฟบอบช้ำน้อยที่สุด กราฟที่ไม่บอบช้ำ จะทำให้อัตราการรอดสูงสุดนั่นเอง
ดังนั้นการปลูกผม ไม่ควรดูเพียงอุปกรณ์การปลูกเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับทุกๆขั้นตอนในการปลูกผม ตั้งแต่การออกแบบแนวผม การนำรากผมออกมาจากด้านหลัง ไปจนถึงขั้นตอนการปลูกผม เพราะการปลูกผม คือ การปลูกถ่ายอวัยวะรูปแบบหนึ่ง ต้องอาศัยเทคนิคความชำนาญเฉพาะตัวในและต้องอาศัยประสบการณ์ที่สูง หากปลูกถ่ายรากผมแล้วกราฟไม่ติดแปลว่าต้องสูญเสียกราฟนั้นไปถาวร และหากแม้ปลูกติดแต่ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ ก็จะส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตระยะยาวอีกด้วย
ศึกษาเพิ่มเติม : ปลูกผมเทคนิคไหนดี
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : NNN นวัตกรรมใหม่แห่งการปลูกผม