Your Cart

ผมร่วง ผมร่วงหลังคลอด

ผมร่วงหลังคลอด

ผมร่วงหลังคลอด ปัญหาใหญ่ของคุณแม่ทุกคนที่ต้องเผชิญ ทำไมตอนตั้งครรภ์ผมร่วงน้อยมาก บางคนผมหนาขึ้นด้วยซ้ำ แต่พอคลอดลูกได้ 3 เดือน ผมร่วง หลังคลอด อย่างรุนแรง ร่วงจนผมบางเห็นหนังศีรษะ ภาวะนี้เรียกว่า ภาวะ ผมร่วงหลังคลอด บุตรนั่นเองค่ะ คุณแม่ทั้งหลายอาจเริ่มตั้งคำถามว่า ผมร่วงหลังคลอด จะเกิดขึ้นได้นานแค่ไหน และมีวิธีรักษาอย่างไร บทความนี้คุณหมอเกศาจะพาไปทำความรู้จักและวิธีรักษาถึงปัญหาผมร่วงหลังคลอดกันค่ะ

ผมร่วงหลังคลอด

สาเหตุ ผมร่วงหลังคลอด

ผมร่วง หลังคลอด มีสาเหตุจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเป็นหลัก โดยการคลอดบุตรถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างการคลอดบุตรร่างกายจะเผชิญกับภาวะการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งฮอร์โมนและความเจ็บปวดขณะคลอด คุณแม่บางท่านอาจเสียเลือดปริมาณมาก กระบวนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือว่าเป็นความเครียดของร่างกาย (physical stress) ส่งผลให้รากผมระยะเติบโต (Anagen phase) เปลี่ยนเป็นผมระยะพัก (Telogen phase) เร็วขึ้น หลังจากนั้น 12-16 สัปดาห์เฉลี่ย 3 เดือนหลังคลอดบุตร ผมระยะพักที่หมดอายุขัยจำนวนมากก็จะหลุดร่วงออกมา ซึ่งผมสามารถร่วงได้ถึงวันละ 150-700 เส้นเลยทีเดียว ซึ่งปกติผมจะร่วงวันละไม่เกิน50-100 เส้น  เมื่อผมร่วงมากผิดปกติ จึงส่งผลให้ผมดูบางลงทั่วๆหนังศีรษะ ภาวะผมร่วงหลังคลอดนี้มีชื่อทางการแพทย์ว่า Postpartum telogen effluvium นั่นเอง

วงจรเส้นผม

ผมร่วงหลังคลอด เกิดขึ้นได้นานแค่ไหน

ผมร่วง หลังคลอดเป็นภาวะผมร่วงชั่วคราว และเกิดได้กับคุณแม่ทุกคน เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะเริ่มร่วงที่เดือนที่ 3 หลังคลอดบุตร และร่วงนานประมาณ 3-6 เดือน เมื่อร่างกายฟื้นตัวผมจะหยุดร่วงเอง  แต่ในคุณแม่บางรายอาจได้ร่วงนานถึง 1 ปี หากคุณแม่ท่านใด มีปัญหาผมร่วงหลังคลอดรุนแรง และไม่ดีขึ้นหลังผ่านไปเกิน 1 ปี แนะนำให้พบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของผมร่วงเพิ่มเติม เช่นโรคไทรอยด์ โรคโลหิตจาง ภาวะพร่องธาตุเหล็ก โรคแพ้ภูมิตัวเอง

วิธีป้องกัน ผมร่วงหลังคลอด

ภาวะผมร่วงหลังคลอดนั้นสามารถหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่สามารถป้องกันให้ผมร่วงไม่รุนแรงได้จากการรับประทานอาหารและวิตามินบำรุงหลังคลอดที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็ก ยิ่งกรณีคุณแม่ที่ให้นมบุตรจะเสียแร่ธาตุจากร่างกายไปยังน้ำนมที่ถูกผลิตขึ้น ดังนั้นต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม หากให้นมบุตรอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ได้รับประทานธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ จะทำให้มีโอกาสพร่องธาตุเหล็ก ส่งผลให้ภาวะผมร่วงรุนแรงต่อเนื่องได้ ดังนั้นควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และรับประทานวิตามินที่มีธาตุเหล็กเสริมหลังคลอดร่วมด้วย

การดูแลตัวเองในช่วง ผมร่วงหลังคลอด

แนะนำทรงผมสั้น เพื่อง่ายต่อการดูแลเส้นผม ข้อดีของผมสั้นคือสามารถพรางตาให้ดูผมไม่บางได้

การรักษา ผมร่วงหลังคลอด

1. เจาะเลือดหาสาเหตุผมร่วง

หากผมร่วงหลังคลอดเป็นนานเกิน 1 ปีหรือผมร่วงรุนแรงจนผมบาง แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุผมร่วงอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นร่วมกันได้ เช่นโรคไทรอยด์ โรคโลหิตจาง ภาวะพร่องธาตุเหล็ก โรคแพ้ภูมิตัวเอง

ตรวจเลือดหาสาเหตุผมร่วง

2. รับประทานวิตามินบำรุงผมและใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน

งานวิจัยพบว่าคนที่มีปัญหาผมร่วงทั่วศีรษะ Telogen effluvium มักมีปัญหาพร่องธาตุเหล็กร่วมด้วย ดังนั้นแนะนำรับประทานวิตามินบำรุงผมที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อรากผมอื่นๆ เช่น ซิงค์ ไบติน จะช่วยให้วงจรการงอกของเส้นผมกลับมาปกติเร็วขึ้นได้  ในช่วงผมร่วงหมอแนะนำเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนที่ไม่มีสารก่อการระคายเคือง เช่น น้ำหอม ซิลิโคน พาราเบน ซัลเฟต ก็จะช่วยถนอมหนังศีรษะและไม่ทำให้ผมร่วงเพิ่มเติมจากการแพ้แชมพูได้

ผมร่วงหลังคลอด follicare plus

3. Minoxidil รูปแบบทา/ทาน

กรณีผมร่วงไม่ดีขึ้นเอง และมีปัญหาร่วงจนเกิดภาวะผมบาง แนะนำใช้การรักษาด้วยยากลุ่ม Minoxidil ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นการเกิดใหม่ของรากผมระยะเติบโต(Anagen phase)และยืดอายุให้ผมระยะเติบโตอยู่ได้นานมากขึ้น ส่งผลให้กระตุ้นการงอกของเส้นผมและลดผมร่วงได้

4. PRP/PRF/PLACENTECH

ปัจจุบันมีงานวิจัยที่สนับสนุนว่าการใช้โกรทแฟคเตอร์สกัดไม่ว่าจะสกัดจากเลือดของคนไข้เองเช่น PRP/PRF matrix หรือสกัดจากห้องปฏิบัติการ เช่น PLACENTECH สามารถช่วยฟื้นฟูรากผมที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรง และช่วยลดผมร่วงได้ 

5. รักษาผมร่วงด้วยแสงเลเซอร์ LLLT

แสงเลเซอร์ความถี่ต่ำLow level laser therapy เหมาะกับรายที่มีปัญหาผมร่วงผมบางที่ยังไม่มีศีรษะล้าน โดยกลไกการทำงานคือ แสงเลเซอร์จะปลดปล่อยพลังงานที่จำเพาะกับรากผม ทำให้กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่งผลให้รากผมแข็งแรง ลดผมร่วง และช่วยรักษาภาวะผมบางได้ โดยปัจจุบันมีการผลิตหมวกเลเซอร์ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยแนะนำทำ 3 ครั้ง/สัปดาห์

*บทความลิขสิทธิ์ โดย บริษัทเกศากรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด*