โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ไปทำลายเซลล์รากผมของตัวเอง (Autoimmunity) ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดได้อย่างไร ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม อาจจะมีหย่อมเดียว หรือหลายๆหย่อมก็ได้ และสามารถเกิดได้กับรากผมหรือขนทุกส่วนของร่างกาย เช่น ขนตา ขนคิ้ว ขนรักแร้ และขนหัวหน่าว ในรายที่มีอาการมาก คือ ผมร่วงทั้งศีรษะ (Alopecia Totalis) มีขนบริเวณอื่นของร่างกายร่วงจนหมดร่วมด้วย (Alopecia Univesalis)
โรคผมร่วงเป็นหย่อมอาจพบร่วมกับโรคกลุ่มแพ้ภูมิตัวเองกลุ่มอื่นๆได้ เช่นโรคภูมิแพ้ โรหอบหืด โรคไทรอยด์ โรคด่างขาว และมีรายงานว่าสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โรคผมร่วงเป็นหย่อมเกิดได้ทั้งในเพศชาย และเพศหญิงเท่าๆกัน สามารถเกิดขึ้นที่ช่วงอายุใดก็ได้ อุบัติการณ์ที่เกิดเฉลี่ยคือ 1 ใน 1000 คน มีรายงานว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมสามารถถูกกระตุ้นให้กำเริบด้วยเชื้อโคโรนาไวรัส-19 และ พบได้ในผู้ที่มีปัญหาผมร่วงหลังฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA
ลักษณะอาการโรคผมร่วงเป็นหย่อม
- ผมร่วงเป็นหย่อม ขอบเขตชัด เป็นรูปวงกลมหรือวงรี
- กรณีเป็นมาก ผมร่วงเป็นหย่อมจะเป็นทั้งศีรษะ เรียกว่า alopecia totalis
- บริเวณที่ผิวหนังที่ผมร่วงมีลักษณะเรียบเลี่ยน ไม่มีการอักเสบแดงหรือลอกเป็นขุย
- คนไข้บางรายเส้นผมอาจเปลี่ยนเป็นสีขาวร่วมด้วย เนื่องจากโรคนี้มีผลต่อเซลล์ที่สร้างเม็ดสีของผม
- ส่องกล้อง Dermoscope พบเส้นผมขนาดสั้นเรียวเล็กคล้ายเครื่องหมายตกใจ
- ในคนไข้บางรายอาจมีความผิดปกติของเล็บร่วมด้วย เช่นเล็บเป็นหลุม พบได้ 10-60%
- ในบางรายที่เป็นโรคนี้ เส้นผมอาจไม่ได้หายไปเป็นหย่อม แต่ผมจะร่วงและบางลงทั่วๆ ศีรษะ เรียกว่า Diffuse alopecia areata และ Alopecia areata incognita ซึ่งทำให้การวินิจฉัยทำได้ยาก ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการตรวจร่างกายด้วยกล้องส่องรากผมโดยเฉพาะ
ลักษณะของโรคผมร่วงเป็นหย่อมเมื่อส่องกล้อง Dermoscope
ที่มา : www.researchgate.net
การรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม
- ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถหายเองภายใน 6 เดือน กรณีที่ผมร่วงบริเวณกว้างมักไม่หายเอง ต้องได้รับการรักษา
- การรักษามีหลายวิธีขึ้นกับความรุนแรงของตัวโรคและดุลพินิจของแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น
- การฉีดยาลดการอักเสบบริเวณผมที่ร่วง ทุก 4 – 6 สัปดาห์ ถือว่าเป็นการรักษาหลักในรายที่เป็นไม่มาก
- การฉีดยาลดการอักเสบเข้าร่างกาย โดยขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
- ทายากลุ่มสเตียรอยด์ที่มีความแรงระดับปานกลางขึ้นไป
- รับประทานยา ทายากระตุ้นรากผม กลุ่ม Minoxidil เพื่อกระตุ้นการงอกของเส้นผม
- ทายากดภูมิคุ้มกัน เช่น Anthralin, DPCP
- การฉายแสง UVA
- การรับประทานยากดภูมิคุ้มกันในรายที่เป็นรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาหลัก
- ระหว่างการรักษา แนะนำใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน เพื่อลดความเสี่ยงผมร่วงจากการแพ้แชมพู
“เคสตัวอย่าง Alopecia totalis ผมร่วงทั้งศีรษะ หลังได้รับการรักษาด้วยการฉีดยาลดการอักเสบทุก 4 สัปดาห์ หลังรักษา 6 เดือน ผมกลับมางอกปกติ “
การพยากรณ์โรคผมร่วงเป็นหย่อม
ส่วนใหญ่แล้วการพยากรณ์โรคดี ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้
- บริเวณผมร่วงเกิน 50% ของพื้นที่หนังศีรษะ
- ผมร่วงทั้งศีรษะ (Alopecia Totalis) หรือผมและขนร่วงทั้งร่างกาย (Alopecia Universalis)
- ระยะเวลาการดำเนินของโรคเกิน 1 ปี
- มีความผิดปกติของเล็บร่วมด้วย
- คนไข้ที่มีประวัติโรคภูมิแพ้ หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองร่วมด้วย
- ผมร่วงเป็นแถบบริเวณชายผมโดยรอบ (Ophiasis)
- ประวัติเป็นซ้ำหลายครั้ง
- ช่วงอายุที่ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดก่อนวัยรุ่น
ข้อแนะนําสำหรับคนไข้โรคผมร่วงเป็นหย่อม
- คนไข้ 30-50% อาจหายได้เองภายใน 6 เดือน – 1 ปี
- กรณีต้องเข้ารับการรักษา แนะนำติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคนี้ต้องใช้เวลารักษาอย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปี
- โรคนี้มื่อหายแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หรือมีผมร่วงเป็นหย่อมใหม่บริเวณอื่นได้ ดังนั้นควรติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง หากมีผมร่วงเป็นหย่อมเกิดใหม่ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อนลุกลาม
- ภาวะการเจ็บป่วยและอาการเครียดอาจกระตุ้นให้เป็นโรคมากขึ้น
- หากผมร่วงเป็นหย่อมรุนแรงแนะนำคนไข้สวมวิก/แฮร์พีชร่วมด้วยขณะทำการรักษา
*บทความลิขสิทธิ์ โดย บริษัทเกศากรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด*
บทความแนะนำ : ผมร่วงหลังติดเชื้อโควิด