ผมมัน หรือ หัวมัน (Oily scalp) เป็นปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่ ส่งผลต่อบุคลิกภาพ และความมั่นใจ “หัวมันเยิ้ม เพิ่งสระผมไปตอนเช้า ตกเย็นผมมันแล้ว เหมือนคนไม่สระผม ผมลีบแบนตลอดเวลา ดูเป็นคนผมบางไปเลย”
สาเหตุผมมันง่ายเกิดจากต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะผลิตไขมันจากธรรมชาติออกมามากผิดปกติ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ธรรมชาติต่อมไขมันของแต่ละบุคคล, ลักษณะเส้นผมตรงและเส้นเล็ก จะมีโอกาสพบปัญหาผมมันได้มากกว่าบุคคลที่มีผมเส้นหนาหรือหยิกหยักศก, พฤติกรรมการสระผม เช่นการสระผมห่างเกินไป หรือสระผมถี่เกินวันละ 1 ครั้ง, การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมชะล้างรุนแรง เป็นต้น
คำแนะนำเพื่อป้องกันภาวะผมมัน/หัวมัน
- หากผมมันมาก แนะนำสระผมทุกวัน เพื่อสุขอนามัยและดูสะอาด แต่ไม่ควรสระผมเกิน 1 ครั้ง/วัน เนื่องจากการสระบ่อยเกินไป จะเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ผมมันได้
- ไม่ควรหวีผมบ่อย ควรหวีเพียงวันละ 2-3 ครั้งเท่านั้น
- ไม่ควรสระผมด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะทำให้หนังศีรษะแห้ง ส่งผลให้ต่อมไขมันถูกกระตุ้น
- หากใช้ครีมนวด ให้ใช้เฉพาะส่วนของเส้นผม หลีกเลี่ยงการใช้บริเวณหนังศีรษะ เนื่องจากหากล้างไม่สะอาด จะทำให้ผมมันเร็วมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เนื่องจากการตกค้างของผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะส่งผลให้ผมมันและร่วงได้
- เลือกแชมพูสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากสารชะล้างรุนแรง เช่น SLS/SLES เนื่องจากการชะล้างที่รุนแรงจะทำให้ต่อมไขมันถูกกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันออกมาทดแทน ส่งผลให้ผมมันได้
- เลือกแชมพูที่สามารถคุมความมันของหนังศีรษะได้ เช่น แชมพูที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิก แอซิด
- รับประทานวิตามินที่มีส่วนช่วยปรับสมดุลต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะ เช่น หญ้าหางม้า
เทคนิคการสระผมที่ช่วยลดปัญหาผมมัน/หัวมัน
- ล้างน้ำเปล่าที่ศีรษะและเส้นผมอย่างน้อย 1-2 นาที
- ตีแชมพูให้เกิดฟองแล้วค่อยนำฟองมาสระผม เนื่องจากการบีบแชมพูลงบนหนังศีรษะแล้วขยี้ จะเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันและเป็นการทำร้ายเส้นผม ทำให้ผมหลุดร่วงมากขึ้น
- ใช้ปลายนิ้วนวดคลึงให้ทั่วศีรษะเบาๆ ไม่เกาหรือขยี้แรงๆ
- หมักแชมพูที่ช่วยลดอาการหนังศีรษะมันอย่างน้อย 3-5 นาทีก่อนล้างออก เพื่อให้แชมพูออกฤทธิ์
- ล้างออกด้วยน้ำเปล่าตามทิศทางผม เน้นบริเวณท้ายทอย ที่มักจะมีแชมพูตกค้าง ทำให้เกิดอาการคัน และสิวบริเวณท้ายทอย
- เช็ดผมให้แห้ง ใช้ลมเย็นเป่าจนแห้งสนิท ไม่ควรใช้ลมร้อน และไม่ควรปล่อยผมให้เปียกชื้นเพราะจะทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
*บทความลิขสิทธิ์ โดย บริษัท เกศา กรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด*
บทความแนะนำ : โรคผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata