รังแค คือลักษณะขุยหรือสะเก็ดสีขาวบนหนังศีรษะ เกิดจากการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดของหนังศีรษะ สาเหตุของการเกิด รังแค ยังไม่ทราบชัดเจน เชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากเชื้อราชื่อ Malassezia โดยผู้ป่วยที่มีปัญหา รังแค จะมีเชื้อราชนิดนี้มากกว่าคนปกติ ทำให้เกิดการเร่งผลัดเซลล์ผิวเร็วกว่าปกติ จึงเกิดเป็นขุยขาวสะสมอยู่บริเวณหนังศีรษะและเส้นผม
ในคนที่มีปัญหา รังแค ธรรมดา หนังศีรษะมักจะไม่พบการอักเสบ หากพบ รังแค ร่วมกับมีการอักเสบของหนังศีรษะมักเป็นโรคผิวหนัง เช่น โรคเซ็บเดิร์ม, โรคสะเก็ดเงิน, ภาวะแพ้สารเคมีที่สัมผัสหนังศีรษะ เช่น แชมพู เซรั่ม น้ำยาย้อม/ดัดผม (contact dermatitis)
วิธีป้องกัน รังแค
- เลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น เนื่องจากน้ำอุ่นจะทำให้หนังศีรษะแห้งและลอกเป็นขุย
- หลังสระผมควรรีบเป่าด้วยลมเย็นให้แห้ง เพราะจะเกิดความอับชื้นได้
- เลี่ยงการเกาแรง ๆ หรือใช้หวีซี่คมหวีบริเวณหนังศีรษะ
- เลี่ยงการใช้แชมพู เซรั่ม หรือน้ำยาย้อม/ดัดผมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
การเลือกแชมพูเพื่อรักษา รังแค
- มองหาส่วนผสมในยาสระผมที่ช่วยรักษารังแคได้แก่ ketoconazole, selenium sulfide ,Tar, Zinc pyrithione
- แชมพูเหล่านี้อาจทำให้ผมแห้งแข็งกระด้าง แก้ไขโดยใช้ครีมนวดบริเวณปลายผม
- แนะนำควรหมักทิ้งไว้ 3-5 นาทีเพื่อให้ยาออกฤทธิ์แล้วล้างออก
- ผู้ที่เป็นรังแคควรใช้ยาสระผมเหล่านี้เป็นประจำ โดยช่วงอาการกำเริบ ควรสระผม 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หลังจากโรคสงบ ลดเหลือ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
เคล็ดลับจากคุณหมอ
คนส่วนใหญ่พอใช้แชมพูยา รังแคหายก็เลิกใช้ ทำให้รังแคกลับมาเป็นอีก ก็จะบ่นกันว่า ใช้อะไรก็ไม่หายขาดเสียที อย่างที่หมอบอกว่าคนที่มีปัญหารังแคส่วนใหญ่เกิดจากการที่มียีสต์บนศีรษะเยอะกว่าคนปกติ ดังนั้นจะมีปัญหา รังแค เป็นๆหายๆไปตลอดค่ะ หมอแนะนำถ้าหายแล้วอย่าลืมใช้แชมพูยา สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเพื่อคุมรังแคให้สงบไปตลอดนะคะ
*บทความลิขสิทธิ์ โดย บริษัทเกศากรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด*
บทความแนะนำ : โรคผมร่วงเป็นหย่อม