ผมบางกลางศีรษะในเพศหญิง เป็นโรคผมบางชนิดหนึ่ง ทางการแพทย์เรียกว่า Female patten hair loss หรือที่เรียกว่า ผมบางที่มีรูปแบบเฉพาะในเพศหญิง หรือบางชื่อเรียกว่า ผมบางพันธุกรรม โดยโรคนี้เป็นโรคเรื้อรัง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ สาเหตุปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เชื่อว่าอาจเกิดจากหลายๆสาเหตุรวมกัน, พันธุกรรมผมบางศีรษะล้านในครอบรัว, ภาวะฮอร์โมนเพศชายสูง(Hyperandrogenism) เช่น โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ PCOS, เนื้องอกที่รังไข่, เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต หรืออาจไม่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศชายก็ได้ การดำเนินของโรคเริ่มแสดงอาการผมบางได้ 2 ช่วงอายุดังนี้ Early onset คือภาวะผมบางเริ่มแสดงอาการในช่วงอายุน้อย มักเริ่มมีอาการผมบางในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากภาวะฮอร์โมนเพศชายเกิน เช่นโรคโรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ PCOS, บางรายไม่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายเกินแต่มีประวัติพันธุกรรมผมบางที่รุนแรง เช่น คนในครอบครัวศีรษะล้านหรือผมบางตั้งแต่อายุยังน้อยเหมือนกัน Late onset คือภาวะผมบางเริ่มแสดงอาการในช่วงอายุมากกว่า 40 ปี ซึ่งกลุ่มนี้มักไม่มีสาเหตุ ไม่ค่อยพบว่ามีภาวะฮอร์โมนเพศชายเกิน และไม่จำเป็นต้องมีประวัติผมบางทางพันธุกรรมก็ได้ อาการส่วนใหญ่ผมจะบางทั่วๆตรงกลางศีรษะโดยแนวผมบริเวณหน้าผากยังปกติ ยกเว้นกรณีผมบางแบบผู้ชาย (frontal type) จะมีผมบางบริเวณง่ามผม ในบางรายอาจมีผมบางมาถึงโซนผมด้านหน้าร่วมด้วยลักษณะคล้ายต้นคริสมาส (Christmas tree pattern) กรณีผมบางในผู้หญิงทุกรายต้องเจาะเลือดเพื่อแยกโรคที่สามารถทำให้ผมบางได้เสมอ เช่น ภาวะโลหิตจาง, โรคไทรอยด์ต่ำ, ไทรอยด์เป็นพิษ, โรคแพ้ภูมิตัวเอง, โรคซิฟิลิส, กรณีประจำเดือนมาไม่ปกติต้องอัลตร้าซาวด์เพื่อหาโรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ PCOS ร่วมด้วย การรักษา เป้าหมายของการรักษาโรค จุดประสงค์ของการรักษาโรคคือการคงสภาพเส้นผมให้มีการเจริญเติบโตปกติ ชะลอการปิดของรูขุมขนให้นานที่สุด เส้นผมที่บางนั้น แปลว่ายังมีรูขุมขนอยู่ คนไข้ต้องคอยบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง มิฉะนั้นเส้นผมจะค่อยๆบางลงเรื่อยๆจนล้านไปตามอิทธิพลของพันธุกรรม รูขุมขนส่วนที่ปิดไปแล้วจะไม่สามารถทำให้กลับมางอกได้อีก หากพื้นที่ล้านเห็นชัดเจน แพทย์อาจแนะนำการปลูกผมถาวรร่วมด้วย โรคผมบางกลางศีรษะ ไม่สามารถรักษาได้ด้วยแชมพูหรือเซรั่มตามท้องตลาด มีคนไข้หลายรายลองผิดลองถูกกับการรักษาด้วยตนเอง จนผมที่บางกลายเป็นศีรษะล้าน ทำให้ไม่สามารถรักษาได้แล้ว ดังนั้นหากใครเป็นโรคนี้ หมอแนะนำว่าควรรีบรักษากับแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อคงสภาพเส้นผมให้แข็งแรง เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นและวัยกลางคน กรณีอายุมากและพิจารณาแล้วว่าภาวะผมบางไม่มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ค่อยหยุดรักษาและปล่อยให้ผมบางไปตามพันธุกรรมที่ควรจะเป็นก็ได้ค่ะ *บทความลิขสิทธิ์ โดย บริษัทเกศากรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด*